สำนักงาน กสทช. ภาค 4
สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ Office of National Broadcasting and Telecommunications Commission
หน้าแรก > ข่าวประชาสัมพันธ์ > ชาร์จมือถือที่ถูกต้อง ป้องกันอันตรายถึงชีวิต!!
บันทึกโดย : กสทช. ภาค ๔     หมายเลขโทรศัพท์ : - วันที่บันทึก : 06/09/2559

ชาร์จมือถือที่ถูกต้อง ป้องกันอันตรายถึงชีวิต!!

lithium-polymer-vs-lithium-ion-battery.png

แบตเตอรี่ชนิด Li-ion และ Li-Polymer เป็นแบตที่ใช้กันอยู่ในมือถือและแท็บเลทในปัจจุบัน มีข้อแนะนำการชาร์จมือถือจากผู้เชียวชาญในต่างประเทศ ดังนี้
 
๑. หลีกเลี่ยงการชาร์จไป และโทรไป เพราะแบตเตอรี่ต้องทำงานมากกว่าปกติถึง ๔๐ เท่าในขณะชาร์จ เมื่อเทียบกับตอนไม่ได้ชาร์จ เนื่องจากขณะใช้มือถือหรือแท็บแล็ตพกพานั้น ใช้แรงดันไฟเพียง ๕ และ ๑๐ โวลต์ตามลำดับ แต่เมื่อเสียบสายชาร์จแล้ว หม้อแปลงเล็กในตัวชาร์จ จะรับแรงดันไฟถึง ๒๒๐ โวลต์จากเต้าเสียบ เพื่อแปลงลงเหลือ ๕ โวลย์ให้กับมือถือ ทำให้อุณภูมิขณะชาร์จสูงกว่าเดิม ในระดับ ๔๐-๕๐ องศา และเมื่อใช้มือถือโทรศัพท์ จะเพิ่มการใช้ไฟและความร้อนให้กับมือถือโดยอัตโนมัติ หากแบตใกล้จะหมดอายุหรือเสื่อมสภาพ จะทำให้ทนต่อแรงดันไฟและความร้อนไม่ได้เหมือนเดิม ก่อให้เกิดการระเบิดตามเป็นที่เป็นข่าว
 
๒. ควรใช้ปลั๊กสามตาแบบสายยาวต่อเป็นเต้าเสียบให้มือถือ จะมีความปลอดภัยสูงกว่าการเสียบมือถือเข้าเต้าเสียบโดยตรง เพราะเต้าเสียบหลายตาแบบสายยาว จะมีฟิวส์และตัวตัดไฟป้องกันไฟฟ้าลัดวงจร หรือการใช้ไฟมากกว่าปกติอยู่แล้ว
 
๓.ไม่ควรชาร์จในขณะที่แบตต่ำกว่า ๓๐% เพราะจะทำให้แบตเสื่อมเร็ว จากผลการทดสอบจากต่างประเทศได้ระบุว่า หากชาร์จแบตเตอรี่ที่ระดับ ระดับแบตเตอรี่อยู่ที่ ๓๕-๗๐% จะดีที่สุด
 
๔.ไม่ควรชาร์จไฟในขณะที่แบตหมดเกลี้ยง ในระดับเปิดเครื่องเปิดไม่ติด (แบตเหลือ ๐%) โดยเด็ดขาด เพราะทำให้แบตพังไวมาก เนื่องจากแบตจะต้องรับภาระการการเรียกคืนประจุหรือรอบการชาร์จ มากกว่าการชาร์จขณะแบ็ตยังไม่หมด ซึ่งนอกจากจะใช้ไฟชาร์จมากกว่าเดิมถึง๓เท่า ยังทำให้แบตร้อนกว่าเดิมถึง ๒ เท่า เมื่อเทียบกับการชาร์จในตอนที่แบตไม่หมด
 
๕.ไม่ต้องกังวลว่าการชาร์จมือถือทิ้งไว้ ในขณะที่แบตเต็ม จะมีปัญหากับแบตหรือไม่ เพราะมือถือและแท็บเลทในปัจจุบันนั้น มีระบบตัดไฟ เมื่อชาร์จแบตจนเต็ม ๑๐๐%
 
๖. หลีกเลี่ยงการทำมือถือตกพื้น เพราะจะทำให้แบตเตอรี่เสียหาย อาจจะทำให้สารเคมีในแบตรั่วไหล หรือขั้วแบตอาจจะหลุดออกมาก็เป็นได้ ซึ่งจะส่งผลให้จ่ายไฟไม่นิ่ง และการใช้งานกับตัวเครื่องมือถือหรือแท็บเลทมีปัญหาได้
 
๗. เวลาชาร์จควรเสียบที่ชาร์จกับปลั๊กไฟก่อน แล้วค่อยเอาหัวชาร์จมาเสียบกับมือถือ-แท๊บเลทอีกที เพื่อป้องกันไฟกระชาก
 
๘. สังเกตุเครื่องหมายรับรองคุณภาพ CE บนแบตแท้ว่ามีหรือไม่ ซึ่ง CE หมายถึง Conformite European เป็นเครื่องหมายที่แสดงการรับรองจากผู้ผลิตว่าสินค้านั้น มีคุณสมบัติตามข้อกำหนดด้านสุขภาพ ความปลอดภัย ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องของสหภาพยุโรป การมีเครื่องหมาย CE กำกับบนสินค้าจะทำให้สินค้านั้นสามารถวางจำหน่าย และสามารถเคลื่อนย้ายได้อย่างเสรีในเขตเศรษฐกิจยุโรป